อุดรธานี (ชมคลิป) “พระพันปีหลวง” มอบอาชีพให้ช่างทอผ้าไหมอุดรฯพลิกชีวิตทำครอบครัวดีขึ้นคว้าที่ 2 “พระพันปีหลวง” รางวัลสร้อยทอง 5 บาท เงินสด 5 หมื่น

“พระพันปีหลวง” มอบอาชีพให้ช่างทอผ้าไหมอุดรฯพลิกชีวิตทำครอบครัวดีขึ้นคว้าที่ 2 “พระพันปีหลวง” รางวัลสร้อยทอง 5 บาท เงินสด 5 หมื่น

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้า@ไหมลายขิดบ้านศรีชมชื่น เลขที่ 167 หมู่ 3 ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พบกับนางลานี โสดาพรม อายุ 70 ปี ประธานกลุ่ม ช่างทอผ้าไหมลายขิด ศูนย์ศิลปาชีพ กำลังนั่งทอผ้าไหมลายขิดสีดำ ซึ่งมีร้านจำหน่ายผ้าไหมสั่งทอไม่จำกัดจำนวน มีสมาชิกกลุ่มมาทอช่วย โดยในศูนย์ได้ตั้งรูป สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระราชชนนีพันปีหลวง ทรงสวมสร้อยคอทองคำให้นางลานี หลังประกวดผ้าไหมลายขิดได้ที่ 2 ที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จ.สกลนคร

นางลานี เปิดเผยว่า ครอบครัวเป็นเกษตรกร ทำไร่ ทำนา มีลูก 3 คน หลังเสร็จจากการทำนา ก็จะทอผ้ามัดหมี่ไว้สำหรับใช้ในครัว ต่อมาปี 2525 ในหลวง รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระราชชนนีพันปีหลวง เสด็จมาเยี่ยมหลวงปู่ขาว อนาลโย ที่วัดถ้ำกองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี (ในสมัยนั้น) ตนอยากชมพระบารมีทั้งสองพระองค์จึงได้ชักชวนญาติไปรับเสด็จ โดยตนถือหมอนลายขิดไปทูลถวายด้วย ซึ่งพระพันปีหลวงได้รับหมอน และรับสั่งว่าทอเป็นผ้าขิดผืนใหญ่ได้ไหม แล้วก็ให้เส้นไหมมา ตนก็มาทอแต่ก็ไม่สวย นำไปประกวดพระองค์รับสั่งว่า “สวยดี ทำใหม่ ให้พยายาม” พระองค์ให้รางวัลชมเชย 7 คน เพื่อเป็นกำลังใจ แล้วให้ไปเรียนการทอลายต่างๆ ที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์

นางลานี กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นฝึกฝน เรียนรู้ ช่างทอผ้าในหมู่บ้านก็นำผ้าไปประกวดตามที่รับสั่ง และจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันได้รับรางวัล บางคนก็ได้ที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และรางวัลชมเชย ไปตามลำดับ ได้รางวัลเป็นเงินสด ต่อมาปี 2539 พระพันปีเสด็จมาพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ ผู้ที่เป็นช่างทอผ้าศูนย์ศิลปาชีพจะต้องนำผ้าที่ทอไปประกวดและขาย และต้องพักค้างที่นั่นเลยประมาณ 20 กว่าวัน ตนนำผ้าไปประกวดได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 2 รางวัลเป็น เงินสด 5 หมื่นบาท สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมเหรียญเงินรูปในหลวงและพระราชินี โดยพระพันปีหลวงสวมสร้อยคอให้ ซึ่งตนได้รางวัลที่ 2 ถึง 3 ครั้ง และรางวัลชมเชยมาตลอด ทำให้ตนรับรางวัลเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทและเหรียญเงิน รวม 3 เส้น และตนมอบให้ลูก 3 คน เก็บไว้ เป็นมรดกตกทอด

แม่ลานี ยังกล่าวต่อว่า หลังจากได้รับเลือกให้เป็นช่างทอผ้าไหมลายขิดของศูนย์ศิลปาชีพ ทอผ้าส่งประกวดได้รับรางวัลชมเชย ตนก็ได้นำความรู้ที่ไปฝึกอบรมที่ศูนย์ศิลปาชีพมาพัฒนาฝีมือ กลับมาฝึกฝนที่บ้าน และรณรงค์ส่งให้ประกวด ช่วงแรก ๆ ไม่ได้รับรางวัล ไม่มีเงินตนต้องขายข้าวเปลือก 3 กระสอบ เป็นค่าเดินทางนำผ้าไหมลายชิดไปประกวดที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จนได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 2 รับรางวัลเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท เงิน 5 หมื่นบาท ทำให้มีกำลังมากขึ้น พร้อมกับพัฒนาฝีมือส่งผ้าไหมลายขิดส่งเข้าประกวด และได้รับรางวัลทุกครั้ง และลูกสาวก็มาเรียนการทอผ้าไหมลายขิดด้วย

“ตั้งแต่ปี 2525 ถึงทุกวันนี้ตนยังทอผ้าไหมลายขิด ส่งขายศูนย์ศิลปาชีพ โดยจะทอผ้าตามลายและออเดอร์ที่สั่งมา นอกจากนี้ยังทอผ้าส่งไปที่ร้านจำหน่ายผ้าไหมต่างๆ ภายใน จ.อุดรธานี และใกล้เคียง รายได้จากการทอผ้าไหมลายขิดขาย (เมตรละ 5,000 บาท) ทำให้ตนมีเงินส่งลูกเรียนหนังสือจนจบปริญญาตรี และสร้างบ้านใหม่ ไม่ลำบากเหมือนเดิม เพราะพระพันปีหลวงมามอบอาชีพให้ จนพลิกชีวิตทำให้ครอบครัวดีขึ้น และเพราะเป็นคนนอนดึก เมื่อทราบว่า พระพันปีหลวงเสด็จสวรรคต ก็รู้สึกเสียใจ ใจหาย หัวใจหัก ตื่นเช้าลูกสาวก็ได้โพสต์รูปที่ได้รับมอบรางวัลสร้อยคอทองคำจากพระพันปีหลวงลงเฟซบุ๊กเลย”

รัฐธนินท์ ถิรศิรเศรษฐ์ อุดรธานี

ในประเทศ

Related posts